Copywriter พ่อลูกอ่อนกำลังก่อกองไฟย่างเนื้อ รอเพิ่มผลลัพธ์ให้กับธุรกิจและการใช้ชีวิตของท่านด้วยเทคนิคการตลาดโบราณ หลักการขายนอกคอก ประสบการณ์ชีวิตแซ่บๆ และวิชา Copywriting ที่ไม่เป็นสองรองใคร

มนุษย์ถ้ำเปิดเผยเทคนิคการเลือกหนังสืออ่านให้ได้ผลมากที่สุด

เขียนโดย Jesse Theerathorn  |  Mindset, Success  |  0 Comments

ว่าด้วยเทคนิคการเลือกหนังสืออ่าน....

หนึ่งในคำถามที่ถามมาเยอะคือ ผมมีวิธีในการเลือกหนังสืออ่านอย่างไร?

คำตอบของคำถามที่เรียบง่ายนี้มีทั้งเชิงหลักการและกลยุทธ์

บางคนอาจจะบอกว่า โหย โคตรเว่อร์ แค่เลือกหนังสืออ่านเองเนี่ยนะ

ใช่ครับ โคตรเว่อร์ครับ แต่ลองคิดดูดีๆสิว่า หนังสือเล่มหนึ่งสามารถทำอะไรให้ชีวิตของท่านได้บ้าง ไหนจะเวลา ไหนจะเงิน และไหนจะกระบวนการต่างๆ.ที่มันต้องมีหลักการ มีกลยุทธ์ก็เพราะการ Unlearn มันยากกว่าการ Learn หลายเท่า ดังนั้นมันก็ต้องละเอียดรอบคอบกันหน่อย

หลักการหนึ่งเดียวที่ผมใช้คือ

"เลือกอ่านหนังสือที่คนสำเร็จหรือไอดอลของเราอ่านตอนเริ่มต้น"

ผมจะไม่อินกับหนังสือที่คนสำเร็จกำลังอ่านตอนที่สำเร็จมาก แต่ผมจะอินและพยายามเงี่ยหูฟังมากๆว่า ตอนที่เขาเริ่มต้น ตอนที่เขาอยู่ในหลุมดำ ตอนที่เขากำลังต่อสู้ดิ้นรน ตอนที่เขาไม่เหลืออะไร เขาอ่านอะไร และหนังสือเล่มไหนฉุดเขาขึ้นมาจากสถานการณ์นั้น

ที่เป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะผมเองก็กำลังดิ้นรนอยู่ ความจริงมันควรจะเป็น เลือกอ่านหนังสือที่คนสำเร็จหรือไอดอลอ่านตอนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับเรา แต่มันยากไปไง ส่วนใหญ่เขาจะบอกแค่ตอนที่เขาดิ้นรน.ความสำเร็จทิ้งร่องรอยเสมอ และหนังสือที่คนสำเร็จอ่านตอนเริ่มต้นสร้างตัวคือ ร่องรองที่ดีและทรงพลังที่สุดแล้ว.ทีนี้มาถึงกลยุทธ์

ผมมีกลยุทธ์ 3 ข้อเท่านั้นในการเลือกหนังสืออ่าน

ข้อแรก เลือกไอดอลหรือคนสำเร็จของเราให้ดี

วิธีเลือกนั้นง่ายมาก อย่าไปฟังที่เขาพูดมาก คนสำเร็จพูดอะไรก็ฟังดูมีเหตุผลอยู่แล้ว ยิ่งเราเป็นติ่งด้วย พูดอะไรมันหล่อไปหมด ดังนั้นดูว่าเขาใช้ชีวิต มีหลักในการทำงาน มีผลลัพธ์อย่างไร

อย่าไปดูความสำเร็จของเขา ดูการใช้ชีวิตของเขา ดูคนรอบข้างเขา ดูสังคมของเขา เพราะความสำเร็จที่โพสท์ๆอยู่อาจเป็นแค่ภาพลวงตา

ถามตัวเองให้จบ ต้องการความสำเร็จของเขาหรือไลฟ์สไตล์แบบเขา

ข้อสอง เงี่ยหูฟังดีๆ.ถ้าเลือกไอดอลถูกต้อง ในบทสัมภาษณ์ ในบทความ หรือในทุกงานสัมมนา เขาจะมีเอ่ยถึงหนังสือที่เขาอ่านตอนเริ่มต้น หรือไม่ก็คนที่ฉุดเขาขึ้นมาจากจุดต่ำสุด

แต่ถ้าเขาไม่ไหว้ครูเลย ไม่ให้เครดิตอะไรเลย ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเขาเอง ผมจะพูดในใจว่า "ขอบคุณครับ คุณจะเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของผมตลอดไป" จากนั้นผมจะหาไอดอลใหม่ เพราะโอกาสที่ผมจะได้แต่แรงบันดาลใจมีสูงมาก

ถามว่าต้องการไหมแรงบันดาลใจ ต้องการสิ แต่ผมต้องการมากกว่านั้นด้วย ผมต้องการจะสร้างรากฐานทางความคิด ผมต้องการรากฐานที่จะส่งผมบินสูงแบบที่ไอดอลของผมทำได้ แรงบันดาลใจอย่างเดียวมันไม่พอ

ข้อสาม ทำตามทันที

บ่อยครั้งที่ผมอ่านหนังสือแล้วเจอชื่อหนังสือบางเล่ม หรือฟังบทสัมภาษณ์แล้วได้ยินชื่อหนังสือจากปากคนให้สัมภาษณ์ ผมจะสั่งซื้อทันทีแบบไม่คิดอะไรมาก

ต่อให้ค่าส่งจะแพงแค่ไหนก็ตาม เพราะส่วนใหญ่หนังสือที่เขาพูดกันไม่มีเป็นภาษาไทย หนังสือ 500 ค่าส่ง 1600 อะไรประมาณนี้

ต่อไปนี้คือรายนามหนังสือที่ผมอ่านตอนเริ่มต้น เผื่อมันจะมีประโยชน์สำหรับท่าน

แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า ผมยังไม่สำเร็จถ้าเงินในบัญชีร้อยล้าน พันล้าน หรือแม้แต่หมื่นล้านคือนิยามของความสำเร็จ ชีวิตของผมตอนนี้คือ ตื่นนอนตี 4 นั่งสมาธิ ฟังออดิโอ เขียนอีเมล จากนั้นจะทำอาหารเช้าให้ลูกชายกิน และหลังจากนั้นก็ฟรีสไตล์อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ ตอนบ่ายรอเล่นกับลูกหลังกลับจากโรงเรียน

ถ้าอิสรภาพที่จะทำอะไรก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ กับใครก็ได้คือสิ่งที่ท่านกำลังตามหา หนังสือทั้งหมดนี้คือหนังสือที่ผมอ่านตอนเริ่มต้น แบบแบ่งเป็นหมวดๆ

ปรับ Mindset / Reset ความเชื่อ / ถอนคำสาป

The Science of Getting Rich

The Power of Your Subconscious Mind

นอร่าที่รัก

คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก (มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป)

The Purpose Driven Life (มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป)

การขาย / การตลาด / Copywriting / ธุรกิจ

เดชคัมภีร์ลับนักขายมือโปร

Scientific Advertising

Adams : The Story of Successful Businessman

Tested Selling เดชคัมภีร์ลับนักขายนอกตำรา

Intensive Copywriting

How to win friends and influence people (มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป)

See you at the top (มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป)

นิยาย (ระวัง อย่าได้เริ่ม)

เพชรพระอุมา (มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป)

Douluo Dalu (ไม่แน่ใจว่ามีคนแปลหรือยัง)

หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ

OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์