Copywriter พ่อลูกอ่อนกำลังก่อกองไฟย่างเนื้อ รอเพิ่มผลลัพธ์ให้กับธุรกิจและการใช้ชีวิตของท่านด้วยเทคนิคการตลาดโบราณ หลักการขายนอกคอก ประสบการณ์ชีวิตแซ่บๆ และวิชา Copywriting ที่ไม่เป็นสองรองใคร

เจ้าของอู่รถแต่งผู้มั่งคั่ง

เขียนโดย Jesse Theerathorn  |  The Science of Getting Rich  |  0 Comments

เมื่อวานผมนึกสนุกว่า ไหนๆก็ถามการ์ดมาหลายอย่างละ ลองไปให้สุดทางไปเลย

เลยลองถามการ์ดว่า พรุ่งนี้ผมจะส่งอีเมลป้ายยาให้คนใน อีเมล List ตัดสินใจเป็นเจ้าของการ์ดชุดนี้ยังไงดี?

การ์ดที่ออก (2 ใบ) คือ

=====

เราอาศัยอยู่ในคลังสมบัติ ใยจึงบอกว่าขาดแคลน (ใบแรก)

กับ

ใส่ชีวิตชีวาให้ภาพของสิ่งที่ต้องการในใจ (ใบที่สอง)

===== 

ผมนั่งหัวเราะหึๆ เพราะไม่รู้ว่าจะไปต่อท่าไหนกับการ์ดที่ออก จะพยายามรีดไอเดียเขียนก็คงไม่น่าใช่ เลยเก็บการ์ดและนั่งทำงานต่อ

ช่วงเย็นๆหลังจากที่ประชุม Zoom อัพเดทงานเสร็จ ผมหยิบรีโมทขึ้นมาไถ Netflix ไปเรื่อย ไถไปงั้นแหละไม่ได้กะจะดูอะไร แต่อย่างที่รู้ไถเรื่อยเปื่อยส่วนใหญ่จะได้ดูและก็เป็นเช่นนั้น

มันจะมีรายการแต่งรถรายการหนึ่งที่ผมชอบดูชื่อ From Rust to Richest และมันเด้งขึ้นมาว่ามี Season ใหม่

ไอเดียของรายการคือ เจ้าของอู่กับทีมจะไปเก็บเอาซากรถเก่าๆมาแต่งใหม่เพื่อขายหรือแลกกับซากรถเก่าๆที่สามารถเอาไปแต่งต่อได้ พวกเขาจะแลกไปเรื่อยๆจนกว่าจะไปถึงเป้าหมายคือ รถคันละ $100,000++ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท)

พูดให้เห็นภาพคือ เก็บซากมา >> แต่ง >> เอาไปแลกกับซากรถที่แต่งแล้วได้ราคามากขึ้น หรือ ขายเอาไปซื้อซากรถที่แต่งแล้วได้ราคามากขึ้น >> เอามาแต่งต่อ ทำซ้ำวนไปจนกว่าจะไปถึงเป้า

ทีนี้ตอนจบ Season 2 เจ้าของอู่ถูกบีบให้ตัดสินใจระหว่างปากท้องของลูกทีม หรือหอเกียรติยศ

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พวกเขาไปได้โครงของรถต้นแบบที่เป็นรถที่เคยมีดาราดังระดับตำนานขับโปรโมท มันเป็นรถที่มีคันเดียวในโลกเพราะสุดท้ายไม่ได้ผลิตออกมา มันดูล้ำเกินไป

โจทย์ของพวกเขาคือ ถ้าสามารถชุบชีวิตรถต้นแบบคันนี้ได้ให้เหมือนในรูปโปรโมทที่สุด มีคนพร้อมรอซื้อที่ราคา $200,000 ซึ่งจะเป็นรถที่ราคาสูงที่สุดที่พวกเขาเคยแต่งขายได้

ในขณะเดียวกัน รถแนวนี้แหละที่หอเกียรติยศของสมาคมนักแต่งรถพร้อมจะอ้าแขนรับ มันเป็นหอเกียรติยศที่นักแต่งรถทุกคนใฝ่ฝันว่าจะมีรถของเขาเข้าไปโชว์พร้อมชื่อผู้แต่ง ตำนานนักแต่งรถทุกคนล้วนมีรถตั้งโชว์อยู่ที่นี่ มันไม่ใช่ทุกคนจะเอารถเข้าไปโชว์ในนั้นได้ แต่ปัญหาคือพวกเขาจะต้องบริจาครถเท่านั้น

ทางเลือกระหว่าง $200,000 ที่จะเอาไปแบ่งเป็นโบนัสชิ้นโตให้ทุกคนในทีม หรือโอกาสในการมีชื่อขึ้นหอเกียรติยศ

เขาเลือกอย่างหลัง ด้วยเหตุผลว่าการบริจาครถขึ้นทำเนียบคือการลงทุนสำหรับระยะยาว และซีซั่นนั้นก็จบลง

เมื่อวานผมเปิดดูซีซั่นใหม่ ผลของการบริจาครถในซีซั่นที่แล้วทำให้ตอนนี้พวกเขาขึ้นทำเนียบอู่แต่งรถอันดับ 1 ในอเมริกาเรียบร้อย ทุกวันจะมีลูกค้าติดต่อเข้ามาอย่างไม่ขาดสายเพื่อให้พวกเขาแต่งรถให้

ผมไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าของอู่เคยศึกษา The Science of Getting Rich หรือเปล่า แต่เขาทำตามกฎของความร่ำรวยที่อยู่ในนั้น

เขาไม่คิดว่าเขาจะขาดแคลนโอกาส เขายึดมั่นในความจริงที่บอกว่า "มันไม่มีหรอกความขาดแคลน มีแต่ความอุดมสมบูรณ์"

คำถามคือ แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องที่ผมจะป้ายยาขายการ์ด The Science of Getting Rich อย่างไร?

ผมจะบอกว่าการ์ดชุดนี้ทำงานด้วยความลึกลับ ผมเริ่มด้วยการขอไอเดียสำหรับส่งอีเมลป้ายยา

การ์ดบอกว่า "เราอาศัยอยู่ในคลังสมบัติ ใยจึงบอกว่าขาดแคลน" กับ "ใส่ชีวิตชีวาให้ภาพของสิ่งที่ต้องการในใจ"

จากนั้นผมก็ไปใช้ชีวิตตามปกติและก็บังเอิญเปิดไปเจอรายการนี้ที่ผมลืมไปแล้วด้วยเพราะไม่ได้ดูเป็นปีแล้ว

ผมขอไอเดีย และผมก็ได้รับไอเดียที่ขอ แม้ว่ากระบวนการจะซับซ้อนไปนิด แต่กรณีนี้การ์ดช่วยเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่คำตอบที่ผมต้องการได้

ผมไม่รู้จริงๆว่าในแต่ละวันท่านต้องการอะไร หรือเจอปัญหาอะไร หรือต้องการคำตอบอะไร แต่สำหรับผมแล้วการ์ดชุดนี้มีคำตอบพร้อมคำอธิบายให้ผมเสมอ

การ์ดนี้ขายเป็นชุดรวมกับหนังสือ The Science of Getting Rich (The Visual Book) พิมพ์ 4 สี เป็น The Science of Getting Rich เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ครบเครื่องที่สุด และอ่านง่ายที่สุดแล้ว

ชุดหนังสือ The Science of Getting Rich : Visual Book พร้อมการ์ด The Science of Getting Rich แบบพรีเมี่ยม ราคา 2,040 บาท (รวมค่าส่งแล้ว)

สามารถขอดูตัวอย่างได้กับทีมงานได้เลย ไลน์ @ohmpiang (ใส่ @ ด้วย)

ผมขอบังอาจแนะนำว่า อย่าคิดว่าเคยอ่าน The Science of Getting Rich เวอร์ชั่นที่ผมแปลแล้วอันนี้ไม่ต้องก็ได้มั้ง เพราะตรงกันข้าม ยิ่งถ้าเคยอ่านที่ผมแปลยิ่งต้องมีเวอร์ชั่นนี้

OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์