แต่ไหนแต่ไรละที่ผมเรียนรู้ว่าเวลาพูดเรื่องธรรมะ จะมีอยู่หัวข้อหนึ่งที่ห้ามพูด พูดทีไรดูจะเป็นประเด็นทุกที ครั้งนี้ก็เช่นกันที่มันชัดเจนมาก
เรื่องมีอยู่ว่าช่วงที่ทุกคนในประเทศเห่อ Clubhouse (ถ้าใครเกิดไม่ทัน มันเป็นแอพสัจธรรมที่สอนผมว่าคนอยากจะพูด โต้เถียง วิจารณ์ โชว์พาว มีมากกว่าคนอยากจะฟังและเรียนรู้)
มีคนมาชวนผมเข้าไปห้องแนวธรรมะที่ชื่อว่า “อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต?”
สาเหตุที่เขาชวนไม่ใช่อะไรเลย เขาแค่ต้องการคนที่มี Follower เยอะๆ เข้าไป ทุกคนที่เป็นผู้พูดจะได้รับอานิสงฆ์ร่วมกัน มันเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการสร้างผู้ติดตาม
ตอนที่ได้รับคำเชิญผมคิดในใจและหลังไมค์ไปหาคนเชิญว่า “นี่คิดดีแล้วเหรอชวนตรูเนี่ย…”
เขาตอบมาว่า “เป็นเนื้อแท้ได้เลยอาจารย์”
โอเค เนื้อแท้… ได้เลย จัดไป
และแล้วคิวของผมก็มาถึง Moderator ก็บิ้วเต็มที่ และเมื่อสปอตไลท์สาดมาตรงหน้าพร้อมกับคำถามหล่อๆว่า
“สำหรับอ. เจษอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต?”
ผมตอบทันทีว่า
===
เงิน
===
สิ่งที่เกิดขึ้นพอผมพูดว่า “เงิน” คือ บรรดา Guest ที่ยกมือแชร์ธรรมะ แชร์เรื่องราวซึ้งๆน้ำตาจิไหล กดออกจากห้องพร้อมกัน 3 คน (เป็นอะไรที่คาดการณ์ได้ มันไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันทำให้ผมประหลาดใจได้ทุกครั้ง)
ผมประหลาดใจเพราะหลายคนทำเหมือนกับว่า เงิน เป็นสิ่งชั่วร้าย เป็นของแสลง เป็นสิ่งที่ไม่ควรหยิบยกขึ้นมาพูดในวงสนทนาของผู้เจริญ
เอาจริงๆนะ เมื่อก่อนผมก็เป็นเช่นนั้นแหละ มันเลยขำไงว่า เออ มีคนเหมือนเราเมื่อก่อนค่อนข้างเยอะแฮะ แต่ผมเปลี่ยนไปเพราะหนังสือ 2 เล่ม
เล่มแรก The Science of Getting Rich ที่บอกว่า
“ต่อให้ ‘ความยากจน’ จะได้รับการสรรเสริญ เยินยอ อุ้มชูให้ดูสูงส่งเพียงใด แต่ความเป็นจริงคือ ชีวิตของท่านจะไม่ได้รับการเติมเต็ม ไม่มีความสมบูรณ์พร้อม และไม่ประสบความสำเร็จ หากท่านไม่รวย
ไม่มีใครสามารถทะยานขึ้นไปสู่จุดที่สูงที่สุดของศักยภาพทางโลก หรือความสงบสูงสุดทางจิตวิญญาณได้ หากปราศจากทรัพยากรที่มากพอ เหตุว่าท่านจะต้องมีทรัพยากรอย่างเพียงพอเพื่อเปิดประตูแห่งความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณบานต่อไป และเพื่อพัฒนาศักยภาพทางโลกให้สูงขึ้น
ประเด็นคือ ทรัพยากรเหล่านั้นต้องใช้เงินในการซื้อ… ท่านสามารถพัฒนาความคิด พัฒนาจิตวิญญาณ และพัฒนาร่างกายให้มีศักยภาพมากขึ้นได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรต่างๆ
ที่สำคัญสังคมก็ถูกออกแบบมาเพื่อบังคับให้ท่านต้องมีเงิน ถึงจะเป็นเจ้าของทรัพยากรต่างๆได้
ดังนั้น… หลักพื้นฐานที่จะช่วยให้ท่านก้าวไปข้างหน้าได้ ต้อง ตั้งอยู่บนศาสตร์แห่งความร่ำรวย”
ส่วนอีกเล่มคือ The Power of Your Subconscious Mind บอกว่า
“สาเหตุที่คุณไม่มีเงิน หรือยังไม่ได้รับในสิ่งที่ต้องการ เพราะคุณทำท่าทีรังเกียจเงินและความสำเร็จไงล่ะ การที่วันนี้เราพูดไม่ดีเกี่ยวกับเงิน หรือนินทาว่าร้ายคนที่ประสบความสำเร็จ นั่นหมายถึงเรากำลังบอกจิตใต้สำนึกว่า เราไม่ต้องการเงิน เงินเป็นสิ่งไม่ดี จิตใต้สำนึกเลยจัดให้ตามนั้น”
สำหรับผม เงิน ไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายครับ ความยึดติดต่างหากคือต้นกำเนิดของความทุกข์และสิ่งชั่วร้าย ไม่ว่าจะเป็นยึดติดในเงิน ในวัตถุ ในความสัมพันธ์ ในความเลว และแม้แต่ยึดติดในความดี…
หนังสือทั้ง 2 เล่มผมแปลเรียบร้อยแล้ว The Science of Getting Rich เป็น Visual Book และมาพร้อมการ์ดมหัศจรรย์ที่มีคำตอบให้สำหรับทุกสถานการณ์ด้วย
บางทีคำตอบของคำถามที่ว่า “ทำงานมาก็หนัก ทำไมยังไม่มีเงิน หรือไม่สำเร็จ หรือไม่มีความสุขเสียที” อาจจะอยู่ในหนังสือ 2 เล่มนี้ก็ได้
อ่านรายละเอียดและสั่งซื้อ The Science of Getting Rich พร้อมการ์ดได้ที่
>> https://theerathorn.com/the-science-of-getting-rich/5-sins-to-my-success/
ส่วน The Power of Your Subconscious Mind ปกแข็ง ขลัง ควรค่าแก่การสะสม อ่านรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่
>> https://ohmpiang.com/the-power-of-your-subconscious-mind/
OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์