สนใจทำพินัยกรรมซักฉบับไหม?
เขียนโดย Jesse Theerathorn | Copywriting | 0 Comments
เมื่อวานผมนั่งดู Better Call Saul (ซีรี่ย์ใน Netflix) ใหม่อีกรอบ ดูไปถึงฉากบ้านพักคนชรา ตอนที่คุณปู่ คุณย่ากินเยลลี่หมดแล้ว
มันเป็นตลกร้ายที่ยอดเยี่ยมมากเพราะที่ก้นถ้วยเยลลี่แทนที่จะเป็นถ้วยเปล่าๆ กลับมีประโยคติดมาด้วย 2 ประโยค
ประโยคแรกคือ
Need a will? (สนใจทำพินัยกรรมไหม?)
ประโยคที่สองคือ
Call McGill! (โทรหาแมคกิลสิ!)
ถ้ามองผ่านๆ มันก็เข้าใจคิดมุขนะ แต่ในแง่ของการทำการตลาดมันเป็นอะไรที่เจ๋งมากด้วยเหตุผล 2 ข้อด้วยกัน
ข้อแรก...
อีตาแมคกิลรู้จักกลุ่มเป้าหมายตัวเองเป็นอย่างดีเลย
ใครมีแนวโน้มจะสนใจทำพินัยกรรมมากที่สุด? ก็คนที่ใกล้ฝั่งแล้วไง
แล้วคนเหล่านี้จะไปหาได้จากไหน? ก็บ้านพักคนชราไง
ใจร้ายไหม... ก็ประมาณนึง
เจ้าเล่ห์ไหม... มากกกก
ตรงกลุ่มเป้าหมายไหม... สุด
อย่างที่สอง...
มาดูเรื่องต้นทุน วิธีนี้น่าจะใช้เงินลงทุนไปไม่เกิน 30 บาทต่อเยลลี่ 1 ถ้วย บวกกับแรงงานในการตระเวนแจกตามบ้านพักคนชราเล็กน้อย
และในเรื่องมีการไปปรากฏตัวเพื่อ Customer Relationship ของอีตาแมคกิลด้วย
รวมๆแล้วถ้าคนชรามีทั้งสิ้น 5,000 คนที่อยู่ตามบ้านพักคนชราในบริเวณที่เขาเอื้อมถึง เขาต้องลงทุนประมาณ 150,000 บาท
หากอีตาแมคกิลคิดค่าทำพินัยกรรมอยู่ที่ 5,000 บาทต่อฉบับ (ในหนังมันหน้าเลือด เพราะร้อนเงิน) บวกกับกฎแห่งค่าเฉลี่ย 10% ให้แบบมาตรฐานหยวนๆ เขาจะขายได้ทั้งสิ้น 500 คน
เคสนี้ยอดขายสุทธิ = 500 x 5,000 = 2,500,000 บาท
หักค่าใช้จ่าย = 150,000 + 50,000 (ค่าดำเนินการแบบประมาณๆเอา) = 200,000 บาท
รวมแล้วแมคกิลจะกำไร = 2,500,000 - 200,000 = 2,300,000 บาท
อูววว
ทีนี้ถ้าอีตาแมคกิลทำในทางกลับกันล่ะ? กลับกันในเชิงสร้างแบรนด์แบบที่คนอื่นเขาทำกัน
ถ้าแมคกิลเกิดใจใหญ่ ติดต่อลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ เขาจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 50,000 บาท
เพื่อพื้นที่โฆษณาในช่องเล็กๆที่จะพูดได้แค่ 2 ประโยคของเขา (Need a will? Call McGill!) และเป็นพื้นที่แออัดที่ทุกคน ทุกแบรนด์ แย่งชิงพื้นที่กันอย่างดุเดือด
ถึงแม้ว่าโอกาสที่คนจะเห็นเยอะกว่าการทำวิธีแรกมหาศาล แต่จะมีกี่คนกันเชียวว่างอ่านทุก Ad โฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์
และจะมีกลุ่มเป้าหมายของเขากี่คน หาเขาเจอในป่าดงดิบของการโฆษณา...
หนังสือ Intensive Copywriting บอกไว้ชัดเจน...
=====
"อย่าได้ลังเลที่จะแลกคน 400,000 คนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อคน 500 คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย"
=====
ที่สำคัญถ้าผมเป็นแมคกิล ผมจะไม่เล็งแค่ Conversion 10% แน่นอน
แต่ผมจะเพิ่มอะไรเข้าไปอีกนิดนึงเพื่อเพิ่มโอกาส Conversion ให้เป็น 20%+ +
สิ่งที่ผมจะเพิ่มคือ หนึ่งในพื้นฐานการเขียน Copywriting ที่ผมสอนในคอร์ส Signature ในตำนาน OHMPIANG SECRET COPYWRITING ที่กำลังจะปรับราคาขึ้นในอีกไม่กี่วัน
คอร์สที่เป็นจุดเริ่มต้นของวัยรุ่นคนหนึ่งที่เรียนจบปุ๊บเป็นเจ้าของโรงงานปั๊บโดยที่เริ่มต้นจาก 0 และใช้เวลาสร้างทุกอย่างควบคู่กับการเรียน
อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://ohmpiang.com/ohmpiang-secret-copywriting/
OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์