หนึ่งในเทคนิคที่ผมพูดใน Relax… It’s Only Facebook และเป็นหนึ่งในเทคนิคที่พัน “นักการตลาดออนไลน์อัจฉริยะที่ไม่กล้าลาออกจากราชการ” หวงแหนมากๆๆๆๆ ถึงมากที่สุดคือ

=====

เทคนิคหมาป่าห่มหนังแกะ

=====

เทคนิคนี้ผมสอนเขาเมื่อครั้งแรกสุดเลยที่เรารู้จักกันตอนจบ Workshop เมื่อ 5 ปีก่อน

มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาบอกผมตลอดว่า เทคนิคนี้เทคนิคเดียวช่วยให้ธุรกิจของเขากินฝูงแกะทั้งหมดของคู่แข่งและยังสามารถรักษาฝูงแกะของตัวเองได้

มันทรงพลังขนาดที่ว่าตอนที่เริ่มใช้เขายังเป็นปลาเล็กในตลาดอยู่ แต่เมื่อใช้แล้วภายในเวลาไม่กี่เดือนเขากลายเป็นปลาใหญ่ที่ขยับตัวแต่ละทีทิศทางในตลาดก็เปลี่ยนตาม

แต่นั่นเป็นเรื่องในอดีตอันหอมหวานเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้มันคงไม่ได้ผลแล้วหรอกเนอะ… เนอะ อ.เจษ?

ผิดถนัดเลย!! 

ทุกวันนี้มันยังคงได้ผลอยู่ครับ ข้อพิสูจน์คือ เพจดังๆหลายเพจกำลังพยายามอย่างหนักในการใช้เทคนิคนี้เพื่อขอแบ่งฝูงแกะไปจากเพจสมองไหลของคุณนาฟิสเพื่อนของผม

ผมไม่ได้กำลังจะเคลมว่าเพจเหล่านั้นรู้เทคนิคอันทรงพลังที่พันหวงแหนนี้มาจากผม เพราะจริงๆแล้วมันเป็นเทคนิคที่เรียบง่ายมากจนน้อยคนที่จะนึกถึง

สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ ลองไปดูเพจสมองไหล และลองสังเกตดูว่ามีเพจไหนบ้างที่กำลังใช้หมาป่าห่มหนังแกะพยายามขอแบ่งฝูงแกะจากเพื่อนของผมอยู่

ถ้าท่านสามารถมองเห็นและเข้าใจได้ ท่านได้เดินทางมาถึงก้าวแรกของวิถีแห่งหมาป่าห่มหนังแกะที่นักการตลาดออนไลน์อัจฉริยะที่ไม่กล้าลาออกจากราชการหวงแหนที่สุดแล้ว

อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่
>> https://www.ohmpiang.com/relax-its-only-facebook

OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์

หลายอย่างที่ผมกำลังจะพูดในอีเมลนี้อาจสร้างความอึดอัดใจให้กับท่าน โดยเฉพาะถ้าท่านเป็นแฟนพันธุ์แท้การยิงแอด Facebook และมีชีวิตอยู่เพื่อตามล่าเทคนิคขั้นเทพอันใหม่ของกรูรู้วคนใหม่

=====

เทคนิคการยิงแอด Facebook ที่สอนๆกันเกือบ 99% จะไม่มีวันที่จะได้ผลสำหรับท่าน

=====

อ่าว… อ.เจษพูดงี้ เตรียมตัวทัวร์ลงได้เลยเดี๋ยวจัดให้

ก็ย่อมได้นะ แต่ไม่คิดว่าวัฏจักรมันแปลกๆบ้างหรอ เทคนิคใหม่ >> ค่าแอดแพง >> โดนปิดบัญชี >> กู้บัญชี >> เทคนิคใหม่ วนไปแบบนี้

ในขณะที่มีคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งที่ใช้วิธีเดิมๆ เทคนิคเดิมๆ แต่ผลลัพธ์มากขึ้นตลอดแม้ว่าสถานการณ์พี่มาร์คจะล่อแหลมแค่ไหนก็ตาม

ผมอยากจะบอกว่า ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เทคนิคการยิงแอด ครับ เทคนิคใหม่ๆที่เขาสอนๆกันหลายเทคนิคเป็นสิ่งที่ใช้กันมาหลายปีแล้ว แต่ที่ 99% มันไม่ได้ผลและจะเป็นเรื่องหลอกลวงก็เพราะทัศนคติและความเข้าใจของคนส่วนใหญ่เกี่ยวกับการยิงแอดต่างหาก

ใน The Ohmpiang Letter Vol. 1 ที่ผมชำแหละแต่ละยุคของการทำ Facebook Marketing ผมย้ำเอาไว้ชัดเจนว่า ยังคงมีคนทำเงินได้อยู่ด้วยวิธีโบราณอย่าง Boost Page เอายอด Like / กดปุ่ม Boost Post ง่อยๆ / ตะบี้ตะบันทำ Content ดังนั้นมันไม่เกี่ยวกับเทคนิคเลย

แต่มันเกี่ยวกับคนที่ใช้เทคนิคล้วนๆ ว่าเข้าใจ กฎ กติกา มารยาท และสภาพแวดล้อมของเกมหรือยัง

การที่วันนี้ท่านตะบี้ตะบันเรียนวิชายิงแอดสารพัดเทคนิคโดยไม่เข้าใจกฎของเกมที่กำลังเล่นจริงๆ มันไม่ต่างอะไรจากการเข้าไปเล่น Hunger Game แบบกดสูตรอมตะของ Contra แต่ดันไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ต้องวิ่งไปไหน สุดท้ายทุกอย่างที่ท่านรู้ก็ไม่ต่างอะไรจากเรื่องหลอกลวงที่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ

ใน Relax… It’s Only Facebook คอร์สที่ถูกปิดผนึกมาแล้ว 2 ครั้งผมพูดทุกอย่างที่ผมรู้ ลงมือทำ และยังคงได้ผลลัพธ์อยู่จนทุกวันนี้ในการทำ Facebook Marketing

ทุกอย่างที่อยู่ในคอร์สไม่เพียงแต่จะช่วยให้ท่านเข้าใจกฎของเกมมากขึ้น ในขณะที่ใช้เวลาน้อยลง แต่มันจะไปช่วยเสริมพลังให้สารพัดเทคนิคที่ท่านรู้เกี่ยวกับการยิงแอดด้วย

แต่ผมต้องขอเตือนไว้ก่อนว่า คอร์สนี้เป็นคอร์สที่สั้นมากๆ มีแต่เสียงพูด ไม่มีภาพ เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 และราคาสูงมากๆ แต่มันอาจเป็นคำตอบที่ท่านตามหาเกี่ยวกับ Facebook มาตลอดก็ได้

อ่านรายละเอียดและสมัครได้ที่
>> https://www.ohmpiang.com/relax-its-only-facebook

OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์

เกิดเมื่อปี 1921 เสียชีวิตเมื่อปี 1989 

Earl Nightingale มนุษย์ผู้คิดค้นคำคม แนวคิด และหลักความสำเร็จเกือบทั้งหมดที่บรรดาไลฟ์โค้ชและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจยุคใหม่เกือบทั้งโลกใช้กัน

ประเด็นคือ เขาเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 20 ปีก่อนจะมี Facebook และก่อนพี่มาร์คจะอายุ 10 ขวบ

ผมพูดถึงคำคมนึงของเขาบ่อยมาก และไม่เคยเบื่อที่จะพูดถึงเพราะทุกครั้งที่พูดมันก็เป็นการพูดกับตัวเองด้วย

“อยากสำเร็จใช่ไหม? ลองมองไปรอบๆสิ แล้วดูว่าคนส่วนใหญ่ทำอะไรกัน… จากนั้นทำในทางตรงกันข้าม เชื่อผมว่าโอกาสที่คุณจะผิดพลาดมีน้อยมาก”

สิ่งที่ Earl Nightingale กำลังจะสื่อคือ คนส่วนใหญ่มักจะไปผิดทางกัน…

มันมีปัญญาอันลึกล้ำซ่อนอยู่ในประโยคนี้ และผมก็ถือเป็นหลักปฏิบัติในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในการทำธุรกิจ การตลาด การขาย และการเขียน Copywriting

กับ Facebook เองก็เช่นกัน ช่วงไหนที่คนส่วนใหญ่แห่ทำอะไรกันเยอะๆ ผมจะพุ่งไปอีกทางหนึ่งทันที

ช่วงไหนคนส่วนใหญ่ Live เยอะ ผมไม่ Live 

ช่วงไหนคนส่วนใหญ่เน้นยิงแอด VDO เยอะ ผมไม่ยุ่งกับ VDO

ช่วงไหนคนยิงแอดข้อความเยอะ ผมยิงแอด Engagement

พูดง่ายๆ ผมจะทำตรงข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ โดยเฉพาะสิ่งที่คนดังและผู้รู้ออกมาฟันธง และไม่มีสักครั้งเดียวเลยที่ผมคิดผิด

ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่าพวกเขาโกหกหรือสิ่งที่เขาพูด เชื่อ และทำกันมันไม่ได้ผล แต่เพราะผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปแย่งอากาศชาวบ้านหายใจ ในเมื่อมันมีพื้นที่โล่งๆ ให้อยู่แบบสบายๆ

ผมทำตรงกันข้ามกับชาวบ้าน จนมีสูตรการทำ Facebook Marketing ของตัวเองที่ทุกวันนี้ยังคงใช้อยู่ และผลลัพธ์มีแต่จะเพิ่มขึ้น

ผมเข้าใจนะว่า ตอนนี้ใครๆก็โอดครวญกันเรื่อง Facebook และต้องเล่นท่ายาก และยากขึ้นไปเรื่อยๆ

แต่ท่าง่ายๆ เน้นผลลัพธ์ที่ผ่านการพิสูจน์มาครั้งแล้วครั้งเล่าก็ได้ผลเหมือนกัน

ซึ่งท่าง่ายๆทั้งหมดที่ผมเคยใช้ ยังคงใช้อยู่ และจะใช้ตลอดไป ผมเตรียมไว้ให้ใน Relax… It’s Only Facebook แล้ว

www.ohmpiang.com/relax-its-only-facebook

OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์

เมื่อ 5 ปีที่แล้วผมตัดสินใจถ่ายทอดทุกอย่างที่ผมรู้ ทุกกลยุทธ์ ทุกเทคนิค ทุกความลับ ทุกข้อมูลที่ผมมั่นใจว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับ Facebook ลงในคอร์สออนไลน์สั้นๆคอร์สหนึ่ง และคอร์สนี้คือคอร์สที่

สร้างแรงกระเพื่อมระดับสึนามิให้วงการยิงแอด

ถึงขั้นทำให้วงการยิงแอดที่สามัคคีกันตอนนั้นเสียงแตกเป็น 2 ฝ่ายทันที

ฝ่ายแรก เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมพูด ลองนำไปใช้ และได้ผลลัพธ์เพิ่มขึ้น

ฝ่ายที่สอง ไม่เห็นด้วยอย่างแรง ถึงขนาดมีการรวมกลุ่มกันปกป้องผลประโยชน์ตัวเองด้วยการโหมออกมาสอนเรื่องยิงแอดมากขึ้น ทั้งออกมากระหน่ำโปรโมทคอร์สยิงแอด ทั้งออกมาจับกลุ่มอวยกันเองสร้างทวยเทพจำแลงสารพัด

ตอนนั้นผมทั้งตลกและประหลาดใจ เพราะจุดมุ่งหมายของผมคือ คายตะขาบวิชา Facebook ให้แฟนพันธุ์แท้กลุ่มเล็กๆตามคำเรียกร้องเท่านั้น และถ้าดูผลลัพธ์ที่สายยิงแอดส่วนหนึ่งนำไปใช้จะเห็นได้เลยว่า ผมไม่ได้มาในฐานะศัตรูแต่มาในฐานะคนที่จะช่วยให้กระบวนท่าทั้งหลายของเขาแซ่บขึ้น

ที่สำคัญผมไม่มีความคิดเลยแม้แต่น้อยที่จะถ่ายทอดวิชานี้ให้คนหมู่มาก เพราะมันขัดกับความเข้าใจ ความเชื่อเกี่ยวกับ Facebook ที่คนส่วนใหญ่รู้กันโดยสิ้นเชิง

ข้อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่าผมตั้งใจขายคนกลุ่มเล็กๆเท่านั้นจริงๆคือ การที่ผมจะเปิดผนึกคอร์สนี้ทุกๆ 2 ปีเท่านั้น

5 ปีที่ผ่านมา ผมเคยเปิดผนึกคอร์สนี้แค่ 2 ครั้ง

ครั้งแรกคือตอนเปิดตัวเมื่อปี 2018 เปิดได้ 2 เดือนก็ต้องตัดสินใจปิดผนึกเพราะความทรงพลังของมัน

ครั้งที่สองคือเมื่อปี 2020 เปิดอยู่ 1 เดือนก็ทนไม่ไหวต้องปิดผนึกต่อเพราะเข้าอีหรอบเดิม เกิดสึนามิในวงการยิงแอดอีกครา

ครั้งนี้ผมตัดสินใจเปิดผนึกคอร์ส Relax… It’s Only Facebook เป็นครั้งที่ 3 ด้วยเหตุผลเดียว…

=====

ทุกอย่างที่ผมพูดยังคงได้ผลอยู่ และเผลอๆได้ผลมากกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้วตอนที่ผมออกมาคายตะขาบด้วยซ้ำ

=====

ผมพูดตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้วในคอร์สว่า ค่าแอดมันจะยิ่งแพงขึ้นๆ และถามจริงว่าเห็นตัวเองนั่งปรับแอด เฝ้าแอด ปวดหัวกับแอดแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?

วันนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเริ่มเห็นด้วยกับผมและเริ่มพูดเหมือนกับที่ผมพูดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว…

เอาเป็นว่าเคล็ดลับ กลยุทธ์ และเทคนิคทุกอย่างที่ผมใช้สร้างผลลัพธ์และไม่เคยมีปัญหากับ Facebook เลย ไม่ว่าจะช่วงลด Reach เพจ ลด Reach ส่วนตัว ค่าแอดแพง แอดอนุมัติไม่ผ่าน โดนปิดแอดรัว หรือช่วงไหนก็ตาม ผมใส่เอาไว้ในคอร์ส Relax… It’s Only Facebook หมดแล้ว

ที่สำคัญแก่นที่ผมพูดในคอร์สนี้ไม่ได้จำกัดเพียง Facebook เท่านั้น แต่ไม่ว่า Social Media ไหนๆท่านก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

ตอนนี้ผนึกได้ถูกคลายแล้ว อ่านรายละเอียดและสมัครได้ที่
>> https://www.ohmpiang.com/relax-its-only-facebook

OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์

Mentor ด้านการตลาดของผมเคยสอนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว

=====

สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต มีแค่ 2% ที่ควบคุมไม่ได้ ที่เหลืออีก 98% ล้วนควบคุมได้

=====

เขายังบอกอีกว่า 2% ที่ว่าประกอบไปด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติและนักการเมือง นอกนั้นเราสามารถควบคุมได้หมด

ผมจำได้ว่าตอนนั้นมีคนแย้งว่าแล้วเรื่อง “เศรษฐกิจ” ล่ะ? มันควรเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้เหมือนกันไม่ใช่หรอ?

คำตอบของเขาคือ จริงอยู่ที่เศรษฐกิจของโลกหรือของประเทศเราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เศรษฐกิจของตัวเองเราสามารถควบคุมได้ และหากเราควบคุมได้ดีเศรษฐกิจของโลกหรือประเทศก็ทำอะไรเราไม่ได้มาก

หายนะทางธุรกิจและการเงินเกิดจากการที่เราไม่ควบคุม ดูแล ใส่ใจ ในสิ่งที่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่าจะด้วยความเข้าใจผิดหรือเรียนรู้มาผิดๆหรือจากประสบการณ์ในอดีตก็ตาม

เรื่องหายนะทางธุรกิจ การขาย และการตลาด ผมมีพูดอยู่เรื่อยๆใน The Ohmpiang Letter และ เสียงย่างเนื้อ Sales Academy

ส่วนเรื่องหายนะทางการเงินทุกประการ วิธีหลีกเลี่ยงอยู่ในหนังสือ The Richest Man in Babylon (Visual Book)

ยกตัวอย่างเช่น วิธีหลีกเลี่ยงหายนะทางคุณค่าในตัวเอง

เรื่องนี้สำหรับผมแล้วเกี่ยวพันอย่างยิ่งกับเรื่องการเงิน ถ้าวันนี้ท่านทำธุรกิจโดยที่ไม่เห็นเงิน ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของเงิน พูดง่ายๆคือ ไม่ได้จ่ายตัวเองก่อน

มีแนวโน้มสูงมากที่เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานของท่าน

จริงอยู่ที่หลายคนจะพูดว่า คุณค่าของตัวเองไม่ได้อยู่ที่ตัวเงิน แต่เชื่อเถอะถ้าท่านทำงานอย่างหนักแล้วไม่เห็นเงิน ท่านจะเริ่มสงสัยและความสงสัยจะทำให้วิธีที่ท่านมองตัวเองสั่นคลอน

วิธีรักษาภาวะกระเป๋าเงินแฟ่บสูตรแรกบอกไว้ชัดเจน – จงขุนกระเป๋าเงินของท่านให้อ้วนพี พูดง่ายๆคือ ท่านต้องจ่ายตัวเองก่อน

เป็นคำแนะนำที่ง่ายแต่ยากมากสำหรับคนที่ไม่เหลืออะไรให้จ่ายตัวเอง แต่เชื่อผมว่าถ้าไม่จ่ายมันจะกระทบเป็นวงกว้าง และเชื่อผมว่า The Richest Man in Babylon มีทางออกที่ละมุนละม่อมให้ท่าน

ชุดหนังสือแปล The Richest Man In Babylon (Visual Book) ราคาพิเศษ 1,000 บาท (ส่งฟรี)

สิ่งที่ท่านจะได้รับ

– หนังสือ The Richest Man in Babylon (Visual Book) พิมพ์สีเน้นแนวขลังพรีเมี่ยม คู่ควรแก่การส่งต่อเป็นมรดกอย่างยิ่ง

– หนังสือเสียง The Richest Man in Babylon ฟังผ่านแอพ OHMPIANG

– โบนัส #1 คลิปเสียง เทคนิคการเอาตัวรอดเวลาคนใกล้ตัวมาขอยืมเงิน พร้อมจิตวิทยาเบื้องหลังที่จะช่วยให้ปฏิเสธง่ายขึ้น และจดหมายทวงหนี้ร่างโดยกระผมเอง

– โบนัส #2 คลิปเสียง ก้าวแรกสู่การลงทุน Dollar Cost Averaging (DCA) โดยโค้ชเป้ ตุลยวัต ธรรมเมธาพร แห่ง Money 6 Pack

หนังสือพร้อมส่งวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 หนังสือเสียงและคลิปเสียงพร้อมให้ฟังผ่านแอพ OHMPIANG วันที่ 9 มิถุนายน 2565 เวลา 20.00 น.

สั่งซื้อได้ที่ไลน์ @ohmpiang (ใส่ @ ด้วย) บอกทีมงานว่า “Babylon”

หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.ohmpiang.com/babylon

OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์

ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ ที่บอกว่าผมอ่าน The Richest Man in Babylon ช้าไป 20 ปีในอีเมลที่ผ่านๆมา

จริงอยู่ที่ผมสามารถคิดเข้าข้างตัวเองได้สารพัดอย่าง

“ถ้าอ่านเมื่อ 20 ปีที่แล้วอาจไม่เข้าใจก็ได้” หรือ “มันยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องอ่าน” หรือ “ถึงอ่านไปก็เท่านั้นเพราะยังเด็กอยู่”

แต่ประเด็นคือ มันไม่ใช่แค่เรื่องลงทุนในเงิน ในทอง ในอสังหา หรือในธุรกิจอย่างเดียวไงที่หนังสือเล่มนี้สอน ถ้าแค่เรื่องเงินทองอย่างเดียวผมคงไม่เสียดายมากเท่านี้

The Richest Man in Babylon เป็นหนังสือสอนเรื่องการลงทุนและบริหารจัดการ “สิ่งที่มีค่า” ทุกอย่างในชีวิต

ให้ผม List ให้ดูว่ามีเรื่องอะไรบ้าง เท่าที่ผมนึกได้แบบไวๆ

– ความมั่นใจ
– ชีวิตคู่
– ทัศนคติและแนวคิด
– หนี้สินและค่าใช้จ่าย
– คุณค่าในตัวเอง
– เกียรติยศและศักดิ์ศรี
– การเลี้ยงลูก
– วินัยและอุปนิสัยแห่งความสำเร็จ
– อนาคต

การที่ผมเข้าใจผิดว่า The Richest Man in Babylon สอนแค่เรื่องเงินและการลงทุนจนปิดใจอยู่นานเป็นหนึ่งในความผิดพลาดที่ผมไม่อยากให้ใครก็ตามเดินมาซ้ำรอย

หนึ่งในเหตุผลที่ผมลงทุนทำหนังสือเล่มนี้เป็น Visual Book ที่อ่านง่ายและเป็นมิตรกับคนที่กลัวเรื่องการเงินก็เพื่อการนี้ ผมไม่อยากให้ใครต้องผิดพลาดและเสียเวลาแบบผมอีก

อ่านรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่
>> https://www.ohmpiang.com/babylon

OHMPIANG
เจษ ธีระธรณ์